สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เผยผลตรวจสอบ รถบัสไฟไหม้

หลังการสูญเสียครั้งใหญ่ รถบัสทัศนศึกษาของเด็กนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งพานักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษา รวม 3 คัน มาทัศนศึกษา​ ก่อนประสบเหตุเกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า หน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จนมีเด็กและครูเสียชีวิตรวม 23 ราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว นายสมาน อายุ 48 ปี โชเฟอร์รถบัสคันดังกล่าว หนีไปตั้งหลักที่ จ.อ่างทอง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 3 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ รายงานการตรวจพิสูจน์คดีเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษา จนเป็นเหตุให้ครูและนักเรียนบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวมาก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบพบถังแก๊ส NGV ติดตั้งภายในรถ 11 ถัง แบ่งเป็นส่วนด้านท้ายรถ 6 ถัง (ถังที่ 1-6) และด้านหน้ารถ 5 ถัง (ถังที่ 7-11)

โดยถังที่ 1-6 เป็นถังแก๊สที่ยังไม่หมดอายุ มีการตรวจสอบสภาพกับกรมการขนส่งทางบก ส่วนถังที่ 7-8 เป็นถังที่ยังไม่หมดอายุ แต่ไม่ได้ตรวจสอบ, ถังที่ 9-10 หมดอายุในปี 2023 และ ถังที่ 11 พบร่องรอยท่อหลุดขาด แต่ยังเห็นรายละเอียดถัง

1.หลุดออกเพราะไม่มีการตรวจเช็กสภาพถัง
2.เกิดจากการกระแทกแล้วหลุดออก

ส่วนบริเวณต้นเพลิงคือ บริเวณห้องตรงกลางด้านล่าง เชื้อเพลิงที่ทำให้เกิดการลุกไหม้บริเวณต้นเพลิง คือ แก๊สที่รั่วออกมา

ขณะที่แหล่งความร้อนที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ คือ ประกายไฟภายในห้องหรือภายนอก หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า

ซึ่งการติดตั้งถังแก๊ส NGV ในห้องปิด เมื่อเกิดการรั่ว ทำให้ไม่ฟุ้งกระจายไปในอากาศ จึงเกิดภาวะเหมาะสม เมื่อมีประกายไฟจึงลุกไหม้ได้