เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานศพและการดำเนินมาตรการเยียวยาครอบครัว ได้ดำเนินการไปแล้ว โดยเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา คปภ. และบริษัทประกันภัย ได้เดินทางมามอบเงินให้กับครอบครัวของครูและนักเรียน ทั้ง 23 ราย รวมมูลค่า 30 ล้านบาท

ทั้งนี้ พบว่ามีหลายครอบครัวของผู้เสียชีวิต เกิดปัญหาเรื่องการรับเงินประกันภัย เพราะบางครอบครัวนั้นผู้เป็นพ่อแม่ไม่ได้เป็นคนเลี้ยงดูผู้เสียชีวิต แต่กลับเป็นผู้ที่รับเงินประกันตามชอบด้วยกฎหมาย

อาทิ ครอบครัวของน้องปูอัด นักเรียนชั้น ป.3 หนูน้อยฮีโร่ที่เข้าไปช่วยเพื่อนจนรอดชีวิตออกมาได้ แต่ออกมาไม่ทัน โดยน้องปูอัด ได้รับการเลี้ยงดูโดยพ่อแท้ๆ และป้า คือ นางไพฑูรย์ อายุ 62 ปี และนางนงนุช อายุ 50 ปี ซึ่งมาร่วมทำบุญกุศล​

ครอบครัวน้องปูอัดเปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า แม่น้องปูอัด นำน้องปูอัดมาให้ตนและพ่อของน้องเลี้ยงดู ตั้งแต่น้องอายุได้ 7 เดือน แต่พอมาวันนี้ทางแม่น้องกลับมาพูดว่าทางตนและพ่อน้อง เป็นคนไปแย่งน้องมา ทั้งๆ ที่เรื่องจริงนั้น แม่ของน้องเป็นคนบอกให้น้องมาอยู่กับตนก่อน แต่พอมาวันนี้กลับมาใช้สิทธิความเป็นแม่ มารับเงินก้อนนี้ไป ทั้งๆ ที่คนที่ดูแลน้องปูอัดจริงๆ แล้วนั้นคือ พ่อและป้าๆ ไม่ใช่แม่ของน้องเลย นานๆ ครั้งหรือแทบจะปีละครั้งที่น้องปูอัดจะได้เจอแม่

“เมื่อวานนี้ แม่น้องปูอัดก็ได้มารับเงินประกันไป ซึ่งจ่ายเป็นเช็ค ยอดประมาณ 1.2 ล้านบาท เพราะตามชอบของกฎหมายแม่จะเป็นคนได้สิทธิก่อน แต่หากมองตามสิทธิความเป็นธรรมแล้วนั้น คนที่ควรได้รับเงินก้อนนี้ควรจะเป็นพ่อของน้องปูอัด ที่เป็นคนเลี้ยงดูน้องมา” ป้าน้องปูอัดกล่าว

ด้าน นางสมจิตร อายุ 54 ปี ยายของน้องออโต้ นักเรียนชั้น ป.3 ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของน้องปูอัด และมีบ้านอยู่ใกล้กัน ได้เล่าว่า วันเกิดเหตุน้องออโต้ หลานชายของตน อยู่ในรถคันดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งน้องออโต้นั้นเพิ่งออกจากโรงพยาบาล หลังต้องรักษาตัวเพราะสำลักควัน

ยายน้องออโต้ เปิดเผยว่า หลานได้เล่าให้ฟังว่าที่ตัวเองรอดมาได้เพราะปูอัดเป็นคนวิ่งขึ้นไปปลุกตนให้ตื่น จนทำให้วิ่งลงมาจากรถจากรถได้อย่างปลอดภัย แต่ทางน้องปูอัดนั้นไม่ยอมวิ่งออกมา เพราะบอกว่าจะไปช่วยเพื่อนอีกคนก่อน จนสุดท้ายน้องปูอัดก็ออกมาไม่ได้