จากกรณีที่ น.ส.สุทธิดา อายุ 23 ปี ได้พาลูกสาว 2 คน คือ น้องของขวัญ อายุ 4 ขวบ และน้องโบนัส อายุ 5 ขวบ ไปนั่งกินอาหารร้านครัวชาวเขื่อน บริเวณอ่างเก็บน้ำบางพระ หมู่ 6 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ขณะที่กำลังพาลูกสาวทั้ง 2 คน ไปเข้าห้องจู่ๆ มีสุนัขจรจัดวิ่งมากระโดดเข้าหาเด็กน้อยวัย 4 ขวบ แล้วกัดขย้ำฝังเขี้ยวเข้าที่บริเวณใบหน้า จนมีแผลเหวอะหวะ
ล่าสุดวันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ร้านอาหารครัวชาวเขื่อน พบ น.ส.ธิดารัตน์ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านเล่าว่า เหตุการณ์ในวันนั้นเธอได้เข้าไปช่วยเหลือ พร้อมกับโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีป ศรีราชา ให้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา และยืนยันว่า สุนัขดังกล่าว ไม่ใช้สุนัขที่ร้าน แต่เป็นสุนัขจรจัด เธอพยายามไล่ทุกวัน เนื่องจากชอบมาขอเศษอาหารจากลูกค้าที่มานั่งกิน ขณะที่ทางฝั่งของผู้เสียหาย น.ส.สุทธิดา ได้พาลูกสาววัย 4 ขวบ หรือน้องกันยภัทร มารักษาแผลที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และบอกว่า ทางแพทย์และพยาบาลได้ทำการรักษาด้วยการเย็บแผลบริเวณใบหน้ากว่า 16 เข็ม และได้ฉีดยากันโรคพิษสุนัขบ้าไว้ในเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้เด็กมีอาการปลอดภัยแล้ว แต่ก็ต้องรักษาบาดแผลทุกวัน
หลังจากเกิดเหตุการณ์ เธอได้ออกตามหาเจ้าของสุนัขดังกล่าว แต่ก็ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ ส่วนทางเจ้าของร้านอาหารก็ยืนยันจะจ่ายเงินค่าทำขวัญเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท เนื่องจากเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ร้านอาหาร ทั้งนี้ก็อยากจะฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ปกครองที่เลี้ยงเด็กเล็ก ระมัดระวังสุนัขกัดเด็กให้ดี เพราะในเวลาที่เกิดเหตุมันเร็วมาก จนคุณไม่ทันตั้งตัว สำนักงานปศุสัตว์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายชวนะ ทองเย็น ปศุสัตว์อำเภอศรีราชา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางปศุสัตว์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งได้รายงานไปยังปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี พร้อมกับมีการลงพื้นที่จับสุนัขจรส่งไปยังศูนย์พักพิงสุนัข พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังพื้นที่ และได้ไปตรวจดูอาการของน้องวัย 4 ขวบแล้ว ซึ่งขณะนี้ทางปศุสัตว์ ก็ได้มีการปรึกษาหารือกับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาพื้นที่ให้กับสุนัขจรจัดในพื้นที่อำเภอศรีราชาเพิ่มอีก
