เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“ฝอยทอง” โปรตุเกส เตรียมจัด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นำทัพกระชากปิดสกอร์ พบกับ “กระทิงดุ” สเปน ที่มี ดีเอโก้ คอสต้า พร้อมล่าตาข่าย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ถ่ายทอดสด : TrueSport HD3 และ True4U, เวลา : 01.00 น.

 

สนาม : โอลิมอิสกี้ สตาดิโอน ฟิชต์, โซชิ, ประเทศรัสเซีย (สนามกลาง)

โปรตุเกส ของ แฟร์นานโด ซานโตส หวังที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ต่อยอดความสำเร็จจากแชมป์ยูโร 2016 ผลงานล่าสุด ”ฝอยทอง’‘ จัดการถล่มแอลจีเรีย 3-0 เป็นการชนะนัดแรกใน 3 เกมอุ่นเครื่องช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเวิลด์ คัพ 2018 สภาพทีมล่าสุด ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบน บรูโน่ แฟร์นานเดส, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ และ เกลซอน มาร์ตินส์ ที่ตัดสินใจยื่นเรื่องขอยกเลิกสัญญากับสปอร์ติ้ง ลิสบอน

เนื่องจากประสบเหตุแฟนบอลรุมทำร้ายที่สนามซ้อม ลงฝึกซ้อมตามปกติและพร้อมเป็นตัวเลือกแน่นอน รุย ปาตริซิโอ เฝ้าเสาตามปกติ โชเซ่ ฟอนเต้ น่าจะได้จับคู่กับ เปเป้ ในแดนหลัง แบ็กขวา-ซ้ายวางใจ เซดริก โซอาเรส กับ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ ชูเอา มูตินโญ่ เชื่อมเกมกลางสนามกับ วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ ปีกขวา-ซ้ายเป็น ชูเอา มาริโอ กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา คู่หน้าจัด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ประคอง อันเดร ซิลวา

 

 

ด้าน สเปน เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ในช่วง 48 ชั่วโมงก่อนลงดวลกับ โปรตุเกส ในเกมนัดเปิดสนามกลุ่ม บี เมื่อข่าวการเซ็นสัญญาระหว่าง จูเลน โลเปเตกี กับ เรอัล มาดริด แพร่กระจายออกไป ซึ่งหลังจากที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเจ้าของแชมป์ยุโรป 13 สมัยเปิดเผยว่าได้บรรลุข้อตกลงกับกุนซือทีมชาติแล้ว ทำให้ หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฟุตบอลสเปน โกรธจัด กระทั่งประกาศปลด โลเปเตกี ออกจากตำแหน่งทันทีท่ามกลางความช็อกของแฟนบอลทั่วโลก ก่อนจะทำการแต่งตั้ง เฟร์นานโด เอียร์โร่ ผอ.ฝ่ายเทคนิค ขึ้นมาคุมทัพแทน

 

 

การมาของ เอียร์โร่ แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน แต่จากการให้สัมภาษณ์ของกุนซือป้ายแดงยืนยันชัดเจนว่าเขาจะไม่มีการปรับเปลี่ยนทีมที่กำลังลงตัวของโลเปเตกีชุดนี้แต่อย่างใด ทำให้เชื่อว่าเกมวันนี้ทัพ “กระทิงดุ” จะยึดระบบการเล่น 4-2-3-1 ต่อไปตามเดิมสภาพทีมล่าสุดนั้นมีเพียงในรายของ ดาเนียล การ์บาฆาล แบ็กขวาจากเรอัล มาดริด ที่มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อมาจากเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ซึ่งยังต้องลุ้นหนักว่าจะฟิตทันหรือไม่ หากไม่ไหวจะเป็น นาโช่ เฟร์นานเดซ ที่ได้ลงสนามแทน ส่วน ดีเอโก้ คอสต้า ที่มีข่าวเจ็บเข่าตอนซ้อมนั้น อาการไม่หนักหนา พร้อมลงสนามด้วยสภาพ 100% อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับ ดาบิด ซิลบา และ เคราร์ด ปีเก้

 

 

ในระบบ 4-2-3-1 มี ดาบิด เด เคอา ลงเฝ้าเสา แผงหลังแบ็กขวา นาโช่ เฟร์นานเดซ แบ็กซ้าย จอร์ดี้ อัลบา คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ เซร์คิโอ รามอส ยืนคู่กับ เคราร์ด ปีเก้ แดนกลาง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ยืนคุมจังหวะร่วมกับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่น่าจะเบียด โกเก้ จอมทัพจากแอต.มาดริด หลุดไปนั่งสำรอง แผงรุกนำโดย อันเดรส อีเนียสต้า, ดาบิด ซิลบา และ ยาโก้ อัสปาส มี ดีเอโก้ คอสต้า ยืนค้ำเป็นหน้าเป้า

 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

 

โปรตุเกส (4-4-2) : รุย ปาตริซิโอ – เซดริก โซอาเรส, โชเซ่ ฟอนเต้, เปเป้, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ – ชูเอา มาริโอ, ชูเอา มูตินโญ่, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – คริสเตียโน่ โรนัลโด้, อันเดร ซิลวา

สเปน (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา – นาโช่ เฟร์นานเดซ, เซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด ปีเก้, จอร์ดี้ อัลบา – เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, ติอาโก้ อัลกันตาร่า (โกเก้) – ยาโก้ อัสปาส, ดาบิด ซิลบา, อันเดรส อีเนียสต้า – ดีเอโก้ คอสต้า

ผู้ตัดสิน : จานลูก้า ร็อคคี่ (อิตาลี)

 

ข้อมูลที่น่าสนใจ

– ครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองทีมเจอกันคือเกมรอบรองชนะเลิศยูโร 2012 ที่ประเทศยูเครน วันนั้นเสมอกันใน 120 นาที 0-0 และเป็นสเปนชนะจุดโทษ 4-2 ก่อนที่ทีมกระทิงดุจะเข้าไปปราบอิตาลี 4-0 ในนัดชิง คว้าแชมป์ไปครอง

– เกมดังกล่าวคือผลเสมอเพียงนัดเดียวที่เกิดขึ้นจาก 5 เกมหลังสุดที่ทั้งคู่เจอกัน ที่เหลืออีกสี่นัด แบ่งเป็น สเปน และ โปรตุเกส ชนะอย่างละ 2

– สเปนไม่แพ้ใครมา 20 นัดติดต่อกัน ซึ่งนี่คือการทำสถิติไร้พ่ายที่ยาวนานที่สุด ถ้านับเฉพาะจาก 32 ทีมในฟุตบอลโลกหนนี้

– โปรตุเกสแพ้คู่แข่งใน 90 นาทีแค่นัดเดียวจาก 18 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ที่เหลือชนะ 11 เสมอ 6

– สเปนเสียประตูถึง 4 จาก 5 นัดที่ลงเล่นในเกมอุ่นเครื่องล่าสุด

– โปรตุเกสชนะมา 9 เกมรวดจากการเล่นรายการคัดบอลโลก แถมเป็นการรักษาคลีนชีตได้ 5 จาก 6 นัด

– สเปนเองก็ชนะได้ 8 เกมติดจากการเล่นรอบคัดเลือก

– โปรตุเกสจะยิงได้อย่างน้อยนัดละ 2 ประตู ตลอด 8 จาก 9 เกมหลังสุดรอบคัดเลือก

– มีสกอร์รวมเกิน 2.5 ลูกเกิดขึ้นใน 4 จาก 5 เกมหลังสุดที่ทีมฝอยทองลงสนาม