เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ซอย 6 ถนนบางนาง – แหลมแค หมู่ 1 ต.บางนาง อ.พานทอง จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งจากผู้ใจบุญบอกว่ามีครอบครัวยากจนสุดอนาถา อาศัยอยู่ที่นี่ ไปถึงพบนายบุญมี แก้วมะเริง อายุ 50 ปี ป่วยเป็นโรคหืดหอบ แขนขาไม่มีแรง นางจ้อย เจริญสุข อายุ 50 ปี แขนว้ายไม่มีแรงยกของหนักไม่ได้ และ ด.ญ.อรอุมา แก้วมะเริง อายุ 13 ขวบ ป่วยเป็นโรคหัวใจรั่วแต่กำเนิด ร่างกายพัฒนาการช้ากว่าคนอื่น เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านเนินถาวร ชีวิตแต่ละวัน นางจ้อย จะออกไปรับจ้างถากหญ้าบ้าง เก็บของเก่าบ้างมีรายได้วันละ 50 – 100 บาทเท่านั้น เพราะนายบุญมี ไม่สามารถออกไปรับจ้างได้ เพราะทำงานหนักไม่ได้เลย จะช่วยกันเก็บขวดพลาสติกและของเก่า หรือสายไฟเอามาลอกเหลือแต่ทองแดงขาย ถ้าวันไหนเก็บของเก่าไม่ได้ก็ไม่มีรายได้ ก็จะขอข้าวพี่สาวซึ่งอยู่ข้างๆกันเอามากิน พี่สาวนั้นก็ยากจนเช่นกัน กระต๊อบที่อยู่นั้นพี่สาวได้เช่าที่ดินวัดอาศัยอยู่ พื้นที่กระต๊อบที่อาศัยอยู่นั้นกว้างแค่ 2 เมตรครึ่ง ยาว 2 เมตรครึ่ง แคบมาก ต่อมามี ดาบตำรวจอัคเดช สุขโสด ผบ.หมู่ จร.สภ.พานทอง ได้มาในนามประธาน “กลุ่มตี๋อมตะฯชลบุรี” นำเงินมามอบให้จำนวน 2,250 บาท กล่าวว่าทราบข่าวเลยนำมามอบให้เบื้องต้นส่วนการช่วยเหลือระยะยาวนั้นก็ต้องให้หน่วยงาน อบต.หรือเทศบาลเข้ามาช่วยเหลือต่อไป

นายบุญมี แก้วมะเริง เผยว่า เมื่อก่อนก็ทำงานก่อสร้าง และรับจ้างทุกอย่างต่อมาป่วยก็เลยเป็นภาระแก่เมียคนเดียวที่ต้องออกไปรับจ้างได้เงินก็ซื้อกินไปวันๆ และไม่นานพื้นที่ด้ายหน้าบ้านนี้เจ้าของเขาก็จะมาสร้างรั้วบ้าน ด้านนี้ต้องปิด แต่ตนจะไปเปิดหน้าบ้านอีกฝั่ง ซึ่งจะต้องใช้ไม้มาทำเป็นสะพานหรือใครมีดินก็ขอเอามาลงให้หน่อย เป็นห่วงลูกสาวที่ตอนนี้ป่วยเป็นโรคหัวใจรั่ว ทุกปีต้องเดินทางไปที่ โรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพฯเพื่อตรวจดูอาการโรคหัวใจรั่ว การรักษานั้นฟรี ตามโครงการของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ แต่ค่าเดินทางค่ากินอยู่ต้องหาเก็บเอาไว้เอง ลูกสาวได้เงินคนพิการเดือนละ 800 บาท ตนอยากได้ห้องน้ำ เพราะลูกสาวก็โตแล้ว ขอกราบผู้ใจบุญทุกท่านช่วยเมตตาด้วย