วันที่ 6 ก.ค.61 กองทัพบกส่งตัว จ.ส.อ. นัฐชนันท์ เขื่อนแก้ว ที่รอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินลาดตระเวนตกที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ มารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่แล้ว โดยยังมีอาการสาหัส ส่วนศพของทหาร 3 นายที่เสียชีวิตจะถูกลำเลียงมาที่ท่าอากาศยานกองบิน 41 ในช่วงบ่ายของวันนี้ ก่อนที่จะแยกไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดเชียงราย และลพบุรีอย่างสมเกียรติ
หลังจากที่ ทหาร และหน่วยกู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือนำตัวของ จ.ส.อ. นัฐชนันท์ เขื่อนแก้ว ที่รอดชีวิตจากเครื่องบินลาดตระเวณ รุ่น cessna 17 ของกองทัพบกได้ประสบอุบัติเหตุตกขณะปฏิบัติภารกิจที่บริเวณป่าใกล้กับบ้านห้วยทรายขาว ต.ห้วยผา อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เป็นเหตุให้นักบิน และนายทหาร เสียชีวิต 3 นาย ขณะที่อาการบาดเจ็บของ จ.ส.อ. นัฐชนันท์ เขื่อนแก้ว แม้จะได้รับการส่งตัวไปรับการรักษาที่ โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน แต่พบว่ามีอาการสาหัสมาก สัญญาณชีพไม่ค่อยดี กระดูกข้อมือขวาหัก กระดูกชายโครงร้าวและมีไฟคลอกบริเวณใบหน้าลงถึงหน้าอกจนถึงช่องท้อง ทางแพทย์จึงได้ประสานสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพภาคที่ 3 ส่งตัว จ.ส.อ.นัฐชนันท์ เขื่อนแก้ว ไปรับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. เฮลิคอปเตอร์ได้มาถึงโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งมีทีมแพทย์ นำรถพยาบาลมาเตรียมพร้อมรอรับที่สนามฟุตบอลของ คณะแพทย์ศาลตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทีนทีที่รับตัว จ.ส.อ. นัฐชนันท์ เขื่อนแก้ว ทางทีมแพทย์ได้นำเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อตรวจอาการในเบื้องต้น และเตรียมประเมินเพื่อทำการรักษาต่อไป
ขณะเดียวกันในช่วงบ่ายของวันนี้ เบื้องต้นประมาณ 15.00 น. เครื่องบิน C130 ของกองทัพบกก็จะรับศพของ 3 นายทหาร คือ ร.ท.ณฤพล พุกทอง ร.ท.วโรจน์ แปลงกระโทก และ ร.ท.เขมราช ดวงแก้ว ผู้เสียชีวิต จากจ.แม่ฮ่องสอน มายังท่าอากาศยานทหารทองบิน 41 จ.เชียงใหม่ ก่อนที่จะมีพิธีรับศพอย่างสมเกียรติด้วยกองทหารเกียรติยศ และแยกไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนา ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายโดยเฮลิคอปเตอร์ 1 ศพ คือ ร.ท.เข็มราช ดวงแก้ว และจังหวัดลพบุรี อีก 2 ศพ ร.ท.ณฤพล พุกทอง คือ ร.ท.วโรจน์ แปลงกระโทก เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามศาสนาอย่างสมเกียรติต่อไป