เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีกระแสโซเชียลได้มีการเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอที่ชายอายุประมาณ 30 ปี ทำร้ายร่างกายชายชราวัย 68 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า เป็นเแผลขนาดใหญ่ สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตเป็นอย่างยิ่งและเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ทราบชื่อคือ นายโชควัฒนา มาลัย อายุ 33 ปี

ทั้งนี้ ยังทราบอีกด้วยว่านายโชควัฒนา นั้นมักจะทำร้ายคนในพื้นที่ประจำแต่ไม่มีใครกล้าเอาเรื่อง ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.บางปู ได้เข้าไปตรวจสอบบ้านพักผู้ก่อเหตุ แต่พบว่านายโชควัฒนาได้หลบหนีไปแล้ว ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมาสอบสวน

นางทองใบ สุทินเผือก แม่ค้าร้านขายของชำ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ นายเชาว์ เป้าประเสริฐ หรือ ลุงเปี๊ยก ผู้เสียหาย ได้ออกมาซื้อหัวไชเท้าและหนังหมูที่ร้านตน เพื่อนำไปทำกับข้าว จากนั้นก็นั่งดูทีวีอยู่ด้วยกัน สักพักลุงเปี๊ยกก็ขอตัวกลับบ้าน จนมาได้ยินเสียงลุงเปี๊ยกร้องขอความช่วยเหลือ บอกว่า “พอแล้ว ๆ” ตนจึงวิ่งออกมาดู เห็นว่าลุงเปี๊ยกถูกทำร้ายจนสลบ จึงเรียกให้ภรรยาของลุงเปี๊ยกพาไปส่งโรงพยาบาล

ขณะที่ น.ส.พริมา เป้าประเสริฐ หลานสาวของลุงเปี๊ยก ยืนยันว่า ลุงเปี๊ยกไม่เคยมีปัญหากับคู่กรณีมาก่อน จึงไปขอดูกล้องวงจรปิด เพราะสงสัย เห็นแล้วเชื่อว่าน่าจะมีอาวุธ เป็นของแข็ง เพราะหากชกหรือใช้เท้าเตะอย่างเดียว ไม่น่าจะหัวแตกจนต้องเย็บถึง 20 เข็มขนาดนี้ คาดว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะใช้สนับมือทำร้าย แต่เมื่อถามจากลุงเปี๊ยก บอกว่า คู่กรณีน่าจะเมาสุรา เพราะตอนเข้ามาทำร้ายมองตาขวางเหมือนอันธพาล คนในซอยรู้เป็นอย่างดี ไม่มีใครอยากจะคบค้าสมาคมด้วย

ล่าสุด ที่สถานีตำรวจภูธรบางปู จังหวัดสมุทรปราการ นายโชควัฒนา ผู้ก่อเหตุชก ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนายโชควัฒนา ผู้ก่อเหตุรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าลงมือทำร้ายร่างกายนายเชาว์จริง อ้างถูกนายเชาว์ด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงบันดาลโทสะและทำร้ายอีกฝ่ายจนได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาแก่นายโชควัฒนา ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ซึ่งพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และได้เดินทางมามอบตัวด้วยตนเอง จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว และให้มาพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 16 ก.ค. 2561 เวลา 08.30 น. เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงสมุทรปราการต่อไป

ขณะที่บ้านของ นายโชควัฒนา มาลัย หรือ นายปุ้ย บางปู ผู้ก่อเหตุ พบว่าที่บ้านประกอบธุรกิจขายส่งกุ้งแห้งติดริมชายทะเลบางปู โดยพ่อของนายปุ้ย บอกว่าติดต่อลูกชายไม่ได้ แล้วก็หนีไปทิ้งลูกและภรรยาไว้ พร้อมอ้างว่าลูกชายไม่เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน เป็นคนทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวแต่อาจจะมีใจร้อนบ้าง ยืนยันได้ว่าลูกไม่เคยมีปัญหาหรือมีเรื่องกับใคร หากมีเรื่องกับคนอื่นลูกชายคงไปอยู่ที่โรงพักแล้ว ส่วนก่อนที่จะก่อเหตุกับลุงเปี๊ยกตนไม่ทราบว่าลูกชายมีอาการเมาสุราหรือไม่

ภายหลังจากทางครอบครัวทราบว่านายปุ้ยไปก่อเหตุเช่นนี้ ยอมรับว่าทางครอบครัวก็เสียใจ ภรรยานายปุ้ยก็ร้องไห้ตลอดทั้งคืน เพราะเครียดที่เห็นข่าวสามีไปทำร้ายลุงเปี๊ยก และถูกแชร์ในโลกออนไลน์ ทางครอบครัวจึงเข้าไปขอโทษครอบครัวลุงเปี๊ยกที่โรงพักแล้ว แต่ยังไม่ได้เจอตัวลุงเปี๊ยก และยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่อีกฝ่ายไม่ยอม และจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ซึ่งทางครอบครัวก็คงจะให้นายปุ้ยต้องรับโทษตามกฎหมายต่อไป