วันที่ 8 ส.ค. “พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์” โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า จากปัญหาวิกฤตการจราจรในกรุงเทพฯ ที่สะสมต่อเนื่อง หลังจากวางแนวกั้นถนนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ถนนลาดพร้าว) มีผลให้การเดินรถในถนนลาดพร้าวขาออก เคลื่อนตัวได้ช้าสะสมต่อเนื่อง กระทบเชื่อมโยงถึง ถนนวิภาวดี-รังสิต, ถนนพหลโยธิน และถนนพระรามเก้า ต่อเนื่องถึงถนนอื่นๆ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันทั่วที่ผ่านมา
ทาง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานติดตามผล การบูรณาการขับเคลื่อนแก้ปัญหาการจราจร โดยมีคณะทำงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งสำรวจ ติดตามและแก้ปัญหาระดับพื้นที่เป็นการเร่งด่วน พร้อมทั้งดำเนินการ สำรวจความเชื่อมโยง และกำหนดแนวทางบริหารจัดการ การจราจรในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลต่อเนื่องกันไป
“พล.ท.คงชีพ” กล่าวว่า “พล.อ.ประวิตร” ได้กำชับเป็นนโยบาย ให้มีการอำนวยความสะดวก เส้นทางที่มีการเชื่อมโยงในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อการระบายรถ และขอให้มีการปรับและควบคุมไฟจราจรให้เหมาะสม เพื่อเฉลี่ยรถในเส้นทางต่างๆ ไม่ให้ติดค้างสะสมยาวนาน โดยต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อำนวยความสะดวก และควบคุมตลอดเวลา โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน
“ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานกรมการขนส่งทางบก ให้ความสำคัญในการกวดขันวินัยจราจร และกำหนดมาตรการเข้มกับกลุ่มที่ละเลยกฎหมาย โดยเฉพาะกลุ่มรถสาธารณะ ประเภทรถโดยสารร่วม และรถแท็กซี่ ที่มีพฤติกรรมขับแซงปาดหน้า และจอดกีดขวางการจราจร ตามข้อมูลที่ประชาชนจำนวนมากแจ้งถึงเจ้าหน้าที่ และให้คณะทำงานที่ตั้งขึ้นดังกล่าว มีการประเมินผลทุกสัปดาห์ และปรับแผนการปฏิบัติให้สามารถบริหารจัดการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว