เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณี เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2561 ร.ต.อ. สมพร เหล่าสิงห์ อายุ 59 ปี รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 อุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ก สมพร เหล่าสิงห์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องหน้ารถยนต์ เป็นเหตุการณ์ชายรายหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์เปลี่ยนเลนไปมา แล้วจอดรถกีดขวางทางถนน หลังโมโหที่ขี่รถปาดหน้าคันอื่น แล้วถูกบีบแตรใส่ พร้อมถือมีดอีโต้เล่มใหญ่ เดินมาฝั่งคนขับรถยนต์ แล้วใช้มีดอีโต้ฟันเข้าที่กระจกหน้าและด้านข้างรถเสียหาย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องวิดีโอหน้ารถ จึงได้มีการแจ้งความที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี ไว้เป็นหลักฐาน

ล่าสุด วันที่ 8 สิงหาคม 2561 ได้มีรายงานว่า นายปรัชญา สำอางอินทร์ อายุ 29 ปี ได้นำคลิปกล้องหน้ารถเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี เป็นภาพเหตุการณ์ ขณะชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ส่ายไปมาเหมือนคนเมา บน ถ.ชยางกูร อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ก่อนจะปาดหน้ารถกระบะของนายปรัชญาจนรถล้ม แล้วพยุงตัวเองขึ้นมาได้ จอดขวางหน้ารถของนายปรัชญา พร้อมด่าทอนานหลายนาที ก่อนจะได้ยินเสียงรถกู้ภัยกำลังขับมาที่เกิดเหตุ ชายคนดังกล่าวจึงขว้างมีดอีโต้ใส่รถกระบะ แล้วรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

  โดยนายปรัชญา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นชายคนดังกล่าวกำลังมีปากเสียงกับผู้ใช้รถใช้ถนนคันอื่น แต่ตนไม่ได้สนใจ จึงขับมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งชายคนนี้ขี่รถจักรยานยนต์มาชนกับรถตน และทำพฤติกรรมดังกล่าว

ขณะที่วันเดียวกันนี้ (8 สิงหาคม 2561) ได้มีรายงานว่า พ.ต.อ. ทวี กิติวิริยกุล ผกก. สภ.เมืองอุบลราชธานี เผยว่า ขณะนี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว และได้ส่งชุดสืบสวนนำหมายเรียกไปให้ ที่บ้านในหมู่บ้านทุ่งขามเหนือ ต.หัวเรือ เพื่อเชิญตัวมาพบกับพนักงานสอบสวน แต่วัยรุ่นคนดังกล่าวไม่อยู่บ้าน จึงแจ้งญาติติดต่อให้มารับทราบข้อกล่าวหา 4 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทหวาดเสียวไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น, พาอาวุธมีดไปในชุมชน เมือง ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ทำให้เสียทรัพย์ และทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว โดยทั้ง 4 ข้อหา มีอัตราโทษไม่สูง ซึ่งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท ที่เหลือก็เป็นคดีลหุโทษ
นอกจากนี้ รายงานข่าวระบุด้วยว่า ชายที่ก่อเหตุเคยเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านถนนชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี หลังก่อเหตุและถูกติดตามตัว ได้ลาออกจากงานและหลบหนีไป ส่วนที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ก็เป็นบ้านของแม่ที่อาศัยอยู่กับญาติ ซึ่งนาน ๆ ชายคนดังกล่าวจะแวะเวียนกลับไปหาสักทีหนึ่ง

         ด้าน พ.ต.ท. รุ่งทวี นาปาน สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าของคดี เตรียมขอศาลออกหมายจับ หลังได้ออกหมายเรียกและส่งชุดสืบสวนไปหาตัวที่บ้านและที่ทำงาน แต่ยังหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ขอแจ้งให้ชายวัยรุ่นที่ก่อเหตุรีบมาพบก่อนออกหมายจับ เพราะจะได้รับการลดหย่อนโทษ ส่วนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาก็มีอัตราโทษไม่สูงมากนัก จึงไม่ควรหลบหนี