กัมพูชา เตรียมส่งตัว “เสี่ยอ้วน” กลับมาดำเนินคดีที่ไทย 21ส.ค.เหตุติดเรื่องเอกสารการส่งตัวตามขั้นตอน ด้าน ผบ.ตร.เตรียมตั้งโต๊ะแถลง
ความคืบหน้ากรณีการติดตามจับกุมตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ผู้บงการฆ่า น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือน้องสปาย อายุ 20 ปี กับนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือน้องฟอส อายุ 21 ปี หน้าองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ หมู่ 6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะหัวหน้าชุดจับกุม ได้ประสานขอความร่วมมือกับทางการกัมพูชา จนสามารถติดตามจับกุมเสี่ยอ้วนได้แล้ว และอยู่ระหว่างส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น
18 ส.ค.61 มีรายงานว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนตามระเบียบของทางกัมพูชาเนื่องจากเสี่ยอ้วนถูกทางการกัมพูชาตั้งข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคงของกัมพูชา และหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเดิมทีทางการไทยคาดว่าจะประงานงานด้านเอกสารเสร็จเรียบร้อยภายใน 1 – 2 วันนี้ ก็น่าจะนำตัวเสี่ยอ้วนกลับมาดำเนินคดีในฝั่งไทยได้
เรื่องเอกสารการส่งตัวต้องเสนอผ่านหลายขั้นตอนตามระเบียบของทางกัมพูชา ซึ่งขั้นตอนด้านเอกสารน่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในวันจันทร์นี้ อีกทั้งช่วงนี้ทางรัฐบาลกัมพูชาอยู่ในห้วงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งที่ 6 พึ่งจะเสร็จสิ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงต้องเตรียมงาน จึงไม่สะดวกที่จะเร่งดำเนินการให้อย่างรวดเร็วมากนัก แต่ยืนยันว่า น่าจะส่งตัวเสี่ยอ้วนได้ภายในเช้าวันอังคารนี้”
ด้านเสี่ยอ้วน เมื่อถูกเจ้าหน้าไทยซักถามถึงสาเหตุการลงมือสังหาร จึงเปิดปากรับสารภาพว่าสาเหตุที่ต้องลงมือนั้น เพราะไปเห็นภาพบาดตาบาดใจ ทำให้โมโหเลือดขึ้นหน้า ก่อนจะชักปืนยิงเปิดฉาก แล้วสั่งให้ลูกน้องกระหน่ำยิงทั้งคู่ซ้ำจนเสียชีวิต ก่อนตนเองจะหลบหนีจนถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
