เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันนี้ 5 ก.ย.61 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายแสงชัย แหเลิศตระกูล ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ปราจีนบุรี หรือที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งทั่วประเทศในนาม “หมอแสง” ที่ปัจจุบันได้รับการรับรองจากกรมการแพทย์แผนไทยและทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นหมอพื้นบ้านที่สามารถใช้สมุนไพรในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้ว่า แม้ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา จะเคยท้อแท้กับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการตรวจสอบของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการใช้สมุนไพรในการรักษาโรคมะเร็งให้แก่ผู้ยากไร้และผู้หมดหนทางในการรักษาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ขณะที่จำนวนผู้ให้การสนับสนุนในการจัดซื้อสมุนไพรสำหรับใช้ปรุงเป็นสูตรในการรักษาที่เริ่มลดน้อยลง จนคิดว่าเริ่มจะถึงทางตัน

แต่ในวันนี้เมื่อได้รับการติดต่อจากบริษัทผู้ผลิตยาในประเทศ ที่เสนอตัวเข้ามาเป็นผู้ผลิตยาสมุนไพรในรูปแบบอาหารเสริม เพื่อให้ผู้ป่วยมะเร็งจากทั่วประเทศ ได้มีโอกาสเข้าถึงสมุนไพรหมอแสงได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องเดินทางมาถึง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งถือว่ามีค่าใช้จ่ายในการเดินทางค่อนข้างสูง และยังต้องเสียเวลาเข้าคิดรอรับยาที่แจกฟรีได้เพียงเดือนละ 10 เม็ด และยังไม่เพียงพอต่อการรักษา เนื่องจากมีผู้ประสงค์ขอรับยาไม่น้อยกว่า 1-2 หมื่นคนต่อครั้ง ก็ทำให้ในวันนี้เริ่มมองเห็นแสงสว่างในการช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็ง และคิดว่าในอีกไม่เกิน 1-2 เดือนนี้ ผู้ป่วยมะเร็งทั่วประเทศจะสามารถซื้ออาหารเสริมในรูปแบบสมุนไพรหมอแสง ได้โดยง่าย

“ขณะนี้ได้มีการประสานงานกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาในประเทศในการผลิตอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ตามสูตรการใช้สมุนไพรที่เรากำหนด รวมทั้งราคาจำหน่ายที่เราสามารถควบคุมได้ เพื่อให้ผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลไม่ต้องเดินทางมาไกลถึง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งบริษัทแห่งนี้จะดำเนินการในรูปแบบธุรกิจคือ เป็นทั้งผู้ผลิต และจัดจำหน่ายภายใต้ขอบเขตที่เราควบคุม ซึ่งก็ถือเป็นทางออกที่ดี เพราะทุกวันนี้เราเองก็เริ่มถึงทางตันแล้วเช่นกัน เนื่องจากมีคนไข้เพิ่มขึ้นในทุกเดือน และค่าใช้จ่ายก็สูงมาก ซึ่งการให้เอกชนเข้าดำเนินการนี้ก็เพื่อเป็นการรองรับผู้ที่มีกำลังในการที่จะหาซื้อสมุนไพรรับประทานได้ ส่วนผู้ที่ยังขาดแคลน เรายังเปิดแจกให้ฟรีเช่นเดิมโดยไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อสมุนไพรแต่อย่างใด”

นายแสงชัย หรือหมอแสง ยังบอกอีกว่าเนื่องจากปัจจุบันผู้ป่วยมะเร็งที่เดินทางมายัง จ.ปราจีนบุรี เพื่อขอรับยาเพียงเดือนละ 10 เม็ด ไม่ใช่มีเฉพาะชาวไทย แต่ยังมีชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งการผลิตสมุนไพรในรูปแบบอาหารเสริมที่ใช้สูตรเดียวกับที่แจกให้ผู้ป่วยฟรี จะทำให้ผู้ที่สามารถซื้อหาด้วยตัวเองได้มีความสะดวกในการเข้าถึงสมุนไพร และสามารถหาซื้อได้ตามความต้องการโดยไม่ต้องมาเข้าคิวรอ และยังทำให้ผู้ที่ยากไร้และไม่มีเงินสำหรับซื้อสมุนไพร สามารถเข้าถึงสมุนไพรที่เราแจกฟรีได้เร็วขึ้น และยังเป็นการลดความแออัดในการเข้าคิดรอ

“ในส่วนของสูตรการผสมสมุนไพรที่ใช้ผลิตนั้น จะต้องอยู่ในการควบคุมของเราเพราะสมุนไพรบางชนิดมีขั้นตอนในการผสม ซึ่งเรายังยืนยันจุดเดิมที่จะใช้สูตรในการผลิตสมุนไพรในการรักษาโรคมะเร็งกับคนไทยเท่านั้น และยืนยันได้ว่าบริษัทยาที่เข้ามาผลิตให้เราเป็นบริษัทของคนไทย 100% เพราะไม่ต้องการให้สูตรสมุนไพรนี้ตกอยู่ในมือของต่างชาติ ที่สำคัญจะช่วยให้คนไทยไม่ว่าจะอยู่ภาคเหนือ หรือใต้ หรือพื้นที่ห่างไกล สามารถเข้าถึงสมุนไพรดังกล่าวได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นหมื่นในการเดินทางมาหาเรา แต่สามารถเข้าไปที่ร้านขายยาที่ใดก็ได้ และยังเป็นการตัดตอนการนำสมุนไพรของเราออกขายในตลาดมืดที่มีราคาแพงอีกด้วย”

นายแสงชัย หรือหมอแสง ยังบอกอีกว่าทุกวันนี้มีความสบายใจมากขึ้นที่กระบวนการตรวจสอบทั้งทางด้านเอกสารและสมุนไพรที่ใช้ในการรักษามะเร็งของตนเองผ่านความเห็นชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงก่อให้เกิดกำลังใจในการเดินหน้าช่วยเหลือผู้ที่หมดหนทางในการรักษาโรคมะเร็งต่อไป ที่สำคัญยังอยากให้ส่วนราชการเข้ามาสนับสนุนสมุนไพรดังกล่าวเพื่อให้เข้าถึงคนไทยทั้งประเทศได้ง่ายขึ้นด้วย

ด้าน ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหารกลุ่ม ฉวีวรรณกรุ๊ป ผู้ส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุกอันดับต้นๆ ของไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้สนับสนุนการใช้สมุนไพรในการรักษาโรคมะเร็ง ได้ออกมาแสดงความเห็นด้วยในการที่หมอแสง มอบหมายให้บริษัทเอกชนเป็นผู้ผลิตยาสมุนไพรเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล เพราะนอกจากจะเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการปรุงสมุนไพรช่วยเหลือผู้ยากไร้ของหมอแสงแล้ว ยังจะทำให้ผู้ป่วยทั่วประเทศเข้าถึงสมุนไพรหมอแสง ได้ง่ายขึ้น และเชื่อว่าราคาที่จัดจำหน่ายจะเป็นราคาที่เป็นธรรมแก่ผู้ป่วยอย่างแน่นอน

เมื่อรู้ว่าหมอแสง จะจัดจำหน่ายสมุนไพรรักษาโรคมะเร็ง ก็รู้สึกดีใจ เพราะทุกวันนี้เห็นใจในการทำงานของหมอแสง เนื่องจากในช่วงแรกมีคนป่วยไม่มากแต่ปัจจุบันมีหลายหมื่นคน และไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องต้นทุน และเมื่อมีทางออกก็อยากจะสนับสนุนให้เกิดขึ้นจริงโดยเร็ว และเชื่อว่ายังเป็นการแก้ข้อครหาต่างๆ ที่ว่าสมุนไพรหมอแสง รักษามะเร็งไม่ได้จริง เพราะหากสมุนไพรไม่ดีจริงก็คงไม่มีใครซื้อ ที่สำคัญขอเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่มีความตั้งใจจริงในการช่วยเหลือผู้หมดหนทางด้วย ดร.ฉวีวรรณ กล่าว