เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 61 ที่ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พ่อและแม่ของนายน้อย (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม. 3 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เมธี พาชื่นใจ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับครูโจ๊ก(นามสมมุติ) ครูสอนวิชาดนตรีของโรงเรียนดังกล่าว ที่ทำร้ายร่างกาย นายน้อย ด้วยการตบบ้องหูอย่างแรงท่ามกลางสายตาของนักเรียนจำนวนมาก หลังเกิดเหตุ ด.ช.น้อย ได้แจ้งให้พ่อ แม่ทราบเรื่อง ต่อมาทางพ่อแม่ ของ นายน้อย ได้นำนายน้อย เข้ารับการตรวจร่างกายที่ รพ.ท่าศาลา ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับครูโหดรายดังกล่าว

นายน้อย เผยว่า เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) ทางครูโจ๊ก ซึ่งสอนวิชาดนตรีได้นัดนักเรียนทั้งระดับมัธยมต้น-มาสอบวิชากีต้าร์  ในระหว่างที่ตนรอสอบตนได้เข้าไปนั่งใกล้กับนักเรียนสาว ม.6 รุ่นพี่ที่เป็นนักเรียนในวงโยธวาทิตของโรงเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบของครูโจ๊ก โดยตนสอบถามรุ่นพี่ ม.6 ว่าคอร์ด F จับกดอย่างไร  ซึ่งรุ่นพี่ก็ได้แนะนำและจับคอร์ด F ให้ดู ในจังหวะที่ตนก้มดูมือของรุ่นพี่ที่จับคอร์ด ครูโจ๊กได้เดินเข้ามาหาและพูดจาตะคอกใส่ด้วยความไม่พอใจว่า “มึงไปหอมแก้มพี่เขาทำไม” ก่อนจะเงื้อมือตบบ้องหูอย่างแรง 1 ครั้ง ทำให้ตนหูอื้อ เจ็บปวดแก้วหู ตนจึงบอกว่า “ครูอย่าทำกับผมอย่างนี้ ผมไม่อนุญาตให้ครูตบหัวผมแบบนี้ และผมไม่ได้หอมแก้มรุ่นพี่ ม.6 ตามที่ครูกล่าวหา จึงสร้างความไม่พอใจให้กับครูโจ๊กเป็นอย่างมากตรงเข้ามาตบหัวและใบหน้าตนอีกหลายครั้งพร้อมชี้หน้าข่มขู่ “มึงจะทำอะไรกูได้ นี่มันห้องของกู” โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีเพื่อนและรุ่นพี่ๆ เห็นเหตุการณ์กว่า 20 คน

“หลังจากนั้นครูโจ๊กได้สั่งยกเลิกการสอบวิชาดนตรีโดยสั่งให้นักเรียนทุกคนคอยมาสอบวันหลัง พร้อมกำชับว่าในส่วนส่วนตนไม่ต้องมาสอบแล้ว ก่อนจะปิดประตูห้องเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ตนเป็นงงมากๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตนแค่เข้าไปนั่งใกล้พี่ ม.6 ถามการจับคอร์ด F เท่านั้น นอกจากเจ็บตัวแล้วตนยังได้รับความอับอายเพื่อนๆ และรุ่นพี่เป็นอย่างมาก เพราะตนไม่รู้ตัวเลยว่าได้ทำผิดอะไร จึงถูกครูโจ๊กทำร้ายถึงขนาดนั้น แต่ดูจากลักษณะอาการของครูโจ๊กเป็นการแสดงออกเหมือนกับหึงหวงนักเรียนสาวรุ่นพี่ ม.6 และน่าจะไม่พอใจที่ผมเข้าไปนั่งใกล้ชิดกับรุ่นพี่คนดังกล่าว และตัวครูโจ๊กอาจจะแอบชอบรุ่นพี่ ม.6 คนดังกล่าวอยู่ก็เป็นได้ ที่สำคัญๆ ครูโจ๊กชอบมีพฤติกรรมในเชิงชู้สาวกับนักเรียนสาวหลายคนจนเป็นที่รับรู้ของนักเรียนทั้งโรงเรียน และเคยก่อเหตุตบเด็กในลักษณะเดียวกับที่ตบบ้องหูตน เป็นเรื่องฉาวโฉ่มาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่เข็ดหลาบมาก่อเหตุตบบ้องหูตนอีก”

นายน้อย กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุตนเดินร้องไห้ไปในวัดที่อยู่ใกล้โรงเรียนและพบกับพี่ชายอยู่ในวัดพอดี เมื่อพี่ชายเห็นตนร้องไห้ก็เข้ามาสอบถาม ตนจึงเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พี่ชายฟัง พี่ชายจึงโทรศัพท์แจ้งพ่อและแม่มาที่โรงเรียน จากนั้นพากันเข้าไปพบท่าน ผอ.โรงเรียน ซึ่งท่าน ผอ.เพิ่งมารับตำแห่งได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น ท่าน ผอ.ขอร้องไม่ให้แจ้งความดำเนินคดีกับครูโจ๊กเกรงว่า เรื่องจะลุกลามทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง และได้นัดเจรจาเคลียร์เรื่องกันในเวลา 9 โมงเช้าวันจันทร์ที่ 1 ต.ค. 2561 แต่ตนและพ่อแม่เกรงว่า ทางโรงเรียนจะช่วยเหลือพวกเดียวกันจึงเดินทางไปเข้ารับการตรวจร่างกายที่ รพ.ท่าศาลา ก่อนเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

“โดยต้องการดำเนินคดีกับครูโจ๊กตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมทั้งสอบสวนเอาผิดทางวินัยด้วย และขอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการจากสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษา หรือศึกษาธิการจังหวัดขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง เนื่องจากหากแค่สอบสวนกันภายในโรงเรียนครูที่เป็นคณะกรรมการจะต้องเข้าด้วยช่วยเหลือครูโจ๊กอย่างแน่นอน ที่สำคัญต่อไปอาจจะถูกกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา จนถึงขั้นไม่ให้ตนจบการศึกษาก็เป็นได้ ตนยืนยีนว่าเรื่องลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว แต่เรื่องก็เงียบหายไปทุกครั้ง ครูอาจารย์ทั้งหลายกลัวเสียชื่อโรงเรียน แต่ทำไมตอนลงมือทำร้ายนักเรียนกลับไม่คิดบ้าง” นายน้อยกล่าว

 

 

ภาพแล้วข้อมูลจาก Tnews