จากกรณีเจ้าอาวาสวัดดัง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มีได้นำภาพของสุนัขถูกจับยัดใส่กระสอบปุ๋ยผูกปาก ไปทิ้งริมถนนเข้าวัด ตายหลายตัว เป็นภาพที่สะเทือนใจแก่ผู้พบเห็น ทำให้เจ้าอาวาสทนไม่ไหว ต้องนำไปโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีการแชร์ต่อกันไปจำนวนมากนั้น
วันที่ 15 ต.ค. 61 ได้ตรวจสอบทราบว่า วัดดังกล่าวคือ วัดบ้านดงน้อย ตั้งอยู่ ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พระปลัดอนวัชอภิลาโส เจ้าอาวาสวัดบ้านดงน้อย เล่าว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านใกล้วัดว่า พบกระสอบปุ๋ยต้องสงสัยวางอยู่ข้างดงอ้อย ริมถนนเข้าวัด ห่างจากวัดประมาณ 600 เมตร จำนวน 7 กระสอบ มีทั้งกระสอบปุ๋ยและกระสอบป่าน จึงนำพระลูกวัดและเด็กวัดออกมาดู ก็พบกระสอบดังกล่าววางอยู่
โดยกระสอบแต่ละใบมีเชือกผูกปากกระสอบอย่างแน่นหนา และบางกระสอบเป็นรูโบ๋ มีสุนัขโผล่หัวออกมา บางกระสอบมีขาโผล่ออกมา แต่เมื่อเปิดกระสอบออกพบว่า สุนัขที่อยู่ในกระสอบตายทั้งหมดรวม 4 ตัว อีก 3 ใบ เป็นกระสอบเปล่า เนื่องจากสุนัขที่ถูกจับยัดได้ดิ้นจนสามารถหลุดออกมาได้ และหนีไปแล้ว
พระปลัดอนวัชอภิลาโส กล่าวอีกว่า ตั้งแต่อาตมาเป็นเจ้าอาวาสมาหลายปี และจากการสอบถามญาติโยมบ้านใกล้วัด ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ร้อยวันพันปีไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ ที่ชาวบ้านจะนำสุนัขจำนวนมากใส่กระสอบมาทิ้งลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม หลังพบว่าสุนัขที่ถูกจับยัดใส่กระสอบตายลง จึงได้ช่วยกันขุดหลุมฝัง
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นเพราะมีการนำเสนอข่าวว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายบังคับให้ผู้เลี้ยงสุนัข แมว ต้องไปขึ้นทะเบียน และต้องเสียเงินจำนวนมาก เนื่องจากค่าขึ้นทะเบียนรวมแล้วต้องเสียเงินถึงตัวละ 450 บาท ชาวบ้านที่รักสัตว์บางรายได้เก็บสุนัข แมวจรจัดที่ถูกทิ้ง นำมาเลี้ยงด้วยความสงสาร ต้องมารับภาระเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ไม่มีเงินนำสุนัขและแมวไปขึ้นทะเบียน จึงกลัวความผิด ตัดสินใจจับสุนัขยัดกระสอบมาทิ้งดีกว่า โดยไม่คำนึงถึงเรื่องบาปกรรม
ภาพและข้อมูล Workpoint