เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 18 ต.ค. นายเทอดศักดิ์ เย็นจุระ ผอ.กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมศิลปากร เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับนักท่องเที่ยว 4 ราย ที่ใช้สีสเปรย์พ่นกำแพงประตูท่าแพ จนเกิดความเสียหายทางโบราณสถาน โดยมี ร.ต.อ.หญิง มนต์ริสสา บุญก้ำ ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งความ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นกำแพงประตูท่าแพด้านใน ตรงข้ามกับโรงแรมเอ็ม เชียงใหม่ โดยจุดเกิดเหตุพบว่า มีการพ่นเป็นข้อความว่า Scougee Lee B อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ก็พบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินมาด้วยกัน 4 คน ก่อนจะมาหยุดตรงบริเวณที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 03.58 น. จากนั้นชาย 2 คน ได้ทำการพ่นสีสเ ปรย์บริเวณจุดดังกล่าว ซึ่งหลังก่อเหตุเสร็จก็ได้ขึ้นรถสามล้อตุ๊กตุ๊กออกไป

นายเทอดศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ประตูท่าแพ อยู่ในความดูแลของทางเทศบาลนครเชียงใหม่ กระทั่งต่อมา ผวจ.เชียงใหม่ ให้ยไปอยู่ในความดูแลของสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ และได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตั้งแต่ปี 2478 แล้ว ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและนำภาพถ่ายพร้อมคลิปจากกล้องวงจรปิดที่มองเห็นพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด ในมาตรา 32 “ผู้ใดบุกรุกโบราณสถาน หรือทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งโบราณสถาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 7 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำต่อโบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งประตูท่าแพนั้นขึ้นทะเบียนแล้ว จึงทำให้ผู้กระทำความผิดมีอัตราโทษที่สูงในการถูกดำเนินคดี

นายเทอดศักดิ์ กล่าวต่อว่า ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดและลบสีสเปรย์ที่พ่นออก และบูรณะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่โชคดีที่สีสเปรย์นั้นยังเข้าไม่ถึงเนื้อด้านในของกำแพงมาก จึงทำความสะอาดได้ไม่ยาก หากคิดเป็นมูลค่าของความเสียหายนั้นอาจจะไม่เยอะ แต่สิ่งที่มีค่าคือ สถานที่แห่งนี้นอกจากจะขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว ยังมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับคนเชียงใหม่อย่างมาก เป็นความรัก ความหวงแหนในศิลปวัฒนธรรม โบราณสถานที่มีอยู่ ทุกคนให้ความสนใจ เป็นจุดแลนด์มาร์คสำหรับคนเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยว แล้วสถานที่แห่งนี้แม้ว่าจะเป็นที่สาธารณะแต่หากจะมีการจัดงาน ก็ต้องขออนุญาตทางสำนักงานศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ และต้องเป็นการจัดงานเพื่อสาธารณะไม่ใช่ทางธุรกิจ รวมถึงต้องเป็นงานที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ ประเพณี วัฒนธรรม ไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียกับเมืองเชียงใหม่ เพราะเป็นสถานที่โบราณสถานตั้งกลางเมืองเชียงใหม่ที่สำคัญ

ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ศรีประเสริฐ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.สภ.เมือง เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้ร่วมกันจับกุมตัว MR. FURLONG LEE อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ และ MRS.BRITTNEY LORRETTA KATHERINE SCHNEIDER อายุ 23 ปี สัญชาติแคนนาดา หลังใช้สีสเปรย์ฉีดพ่นกำแพงประตูท่าแพ โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณเกสต์เฮ้าส์แห่งหนึ่งย่านถนนกำแพงดิน อ.เมือง จ.เชียงใหม่

พ.ต.ต.อานนท์ เชิดชูตระกูลทอง สว.สส.สภ.เมือง เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสอบถามเบื้องต้น MR. FURLONG LEE อายุ 23 ปี ให้การผ่านล่ามว่า เป็นสาวกของลิเวอร์พลู คำที่ผ่านไปบนกำแพง เป็นคำว่าสเกาเซอร์ (Scouser) แล้ว Lee ก็มาจากชื่อตนเอง ซึ่งก่อนที่จะมาก่อเหตุนั้น ขณะที่เดินอยู่ริมถนนได้พบเจอสีสเปรย์วางอยู่ เลยลองพ่นดูก็รู้ว่ายังใช้ได้ จึงถือติดมือมาด้วย เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ก็เห็นว่าเป็นกำแพง คิดว่าคงจะพ่นสีสเปรย์ได้ เหมือนกับในต่างประเทศ เพราะมองว่าการพ่นสีเป็นเหมือนกับศิลปะที่แสดงออกได้ คงไม่มีใครว่าอะไร ประกอบกับความเมา จึงได้พ่นสีสเปรย์ลงไป และเพื่อนอีกคนคือ MRS.BRITTNEY LORRETTA KATHERINE SCHNEIDER ซึ่งเป็นสาวทอม ก็ได้พ่นอักษรย่อชื่อตัวเองคือ B ลงไปบนกำแพงด้วย หลังจากพ่นเสร็จ ก็นั่งรถกลับไปที่พักและมาถูกเจ้าหน้าที่มาจับกุมบอกว่าได้กระทำผิดกฎหมาย ส่วนเพื่อนที่มาด้วยไม่ได้ร่วมพ่นสีสเปรย์ด้วย