เพื่อนบ้านสะสมความแค้น คว้าปืน 9 มม. รัวยิงหนุ่มเทศบาลหมดแม็กดับคาที่ เผยสาเหตุส่วนตัวเพราะบ้านติดกัน ก่อนโทรเรียกตำรวจจับตัวเอง
วันที่ 26 ต.ค.61 เวลา 08.00 น. ร.ต.อ.วรวิทย์ ซุยลา พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม รับแจ้งจากนายโชคชัย สุขเกษม อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 442 หมู่ 1 ถนนเทศบาล 15 หลังสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.ศรีสงคราม บ้านปากอูน เขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม ว่า ตนเองได้ใช้อาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. รัวยิงนายมงคล เสนคะ อายุ 39 ปี 446 หมู่ 1 ตำแหน่งผู้ช่วยนักบริหารทั่วไป เทศบาลตำบลศรีสงคราม เสียชีวิต อยู่หน้าบ้านของผู้ตาย ขณะนี้ตนยืนรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.ฯ พ.ต.ท.สง่า อินทร์สาธร รองผกก.สืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจรถยนต์ และแพทย์เวร รพ.ศรีสงคราม พบศพนายมงคลนอนจมกองเลือด ในสภาพสวมเสื้อสีม่วง กางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกยิเข้าบริเวณหน้าอก ต้นแขนขวา และเบ้าตาจนสมองไหล รวม 6 นัด ในที่เกิดเหตุมีปลอกกระสุนตก 10 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ใกล้ๆ กันมีนายโชคชัยผู้ก่อเหตุ ยืนอยู่ที่รถปิกอัพ แค๊บ อีซูซุ สีบอรนซ์ รุ่นมังกรทอง ทะเบียน บค 4019 นครพนม โดยมีแม่ เมีย และลูกของคนร้ายอยู่ในอาการตกใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนหาข้อเท็จจริงในการสังหารโหดครั้งนี้ เบื้องต้นนายโชคชัยให้การว่า มีบ้านติดกับผู้ตาย และมีเรื่องระหองระแหงกันมาโดยตลอด ตนมีสวนยางพาราต้องไปนอนเฝ้าสวน จึงไม่ค่อยได้มานอนที่บ้าน ขณะเดียวกันผู้ตายก็ไม่มีครอบครัว มักจะมีปากเสียงกับคนในครอบครัวตนเสมอ บางครั้งพูดจาเสียดสีดูถูกถากถาง จนเคยเปรยๆบ่อยครั้งว่าจะฆ่า แม่ เมีย และลูกของตนยกครัว ทำให้ไม่สบายใจหวาดระแวงว่านายมงคลเพื่อนบ้านจะฆ่าคนในครอบครัวอย่างที่ขู่ไว้
ก่อนเกิดเหตุตอนเช้าตรู่ นายมงคลก็มีเรื่องทะเลาะกับแม่ตนอีก และขู่ว่าปากดีนักระวังจะฆ่าทิ้ง แล้วแม่ก็นำเรื่องดังกล่าวมาเล่าให้ฟัง ขณะนั้นตนก็ขับรถยนต์มารับลูกไปส่งโรงเรียน ก่อนจะหวนกลับมาที่บ้าน โดยในรถยนต์มีแม่ เมีย ลูกคนเล็ก อายุ 4 ขวบ นั่งมาด้วย เป็นจังหวะเดียวกับที่นายมงคลเปิดประตูบ้าน จะออกไปทำงานพอดี ตนจึงจอดรถแล้วลดกระจกลง คว้าอาวุธที่ซ่อนอยู่หน้าเก๊ะออกมา พร้อมกับถามว่า “มึงแน่นักหรือ” ก่อนจะลั่นไกรัวจนหมดแม็ก จนร่างนายมงคลฟุบขาดใจตาย ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจเพื่อนำตัวไปดำเนินคดี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สองครอบครัวนี้มีเรื่องบาดหมางมานานปี ต่างพูดเสียดสีกันไปมา ประกอบกับผู้ต้องหาระแวงว่าครอบครัวจะไม่ปลอดภัย เพราะโดนผู้ตายข่มขู่ไว้หลายครั้ง ก่อนจะถึงจุดเดือดถูกอาฆาตจะฆ่าทิ้ง จึงรีบชิงลงมือฆ่าก่อน จึงเกิดเหตุเศร้าสลดดังกล่าว
