เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 พ.ย.2560 บรรยากาศที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศทั่วไทยทยอยเดินทางเข้าร่วมในพิธีจนเต็มลานธรรม โดยมีการเคลื่อนหีบศพของหลวงพ่อพระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญานันทมหาเถระ ซึ่งตั้งเอาไว้ที่บริเวณหน้าลานธรรม

เจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวังและต่อแถวด้วยขบวนพระสงฆ์จำนวน 100 รูป เดินตามขบวนหีบศพของหลวงพ่อปัญญาฯผ่านลานธรรมออกไปสู่บริเวณ เมรุที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร บริเวณศาลาขจรประศาสน์ ซึ่งได้ประดับประดาจัดดอกไม้สดตกแต่งเมรุด้วยความสวยงามจากทางสวนนงนุช จากนั้นได้มีขบวนจากสำนักพระราชวังแต่งเครื่องแต่งกายโบราณ อัญเชิญโกศแปดเหลี่ยมติดตามขึ้นไปที่เมรุด้วย เพื่อเตรียมพระราชทานเพลิงศพพระพรหมมังคลาจารย์

ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 5 พ.ย. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นองค์ประธานในการพระราชทานเพลิงศพพระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทมหาเถระ) อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ ณ เมรุชั่วคราว วัดชลประทานรังสฤษดิ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก พระปัญญานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นางสาวศรัณยา เลิศศาสตร์วัฒนา ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนนทบุรี พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 และ พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เฝ้าฯรับเสด็จ

ต่อมา 18.45 น. พระสงฆ์เดินนำนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพกาญจนาภิเษก หนองจอก เชิญหีบสรีรธาตุพระพรหมมังคลาจารย์จากเมรุชั่วคราวไปประดิษฐาน ณ จิตกาธาน บริเวณบุญพิธีหน้าโรงเรียนพุทธธรรม วัดชลประทานรังสฤษดิ์ โดยมีพยาบาลจากศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทาน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และศิษยานุศิษย์ รวมถึงพุทธศาสนิกชน นั่งรอรับตลอดสองข้างทางที่ขบวนเคลื่อนผ่านด้วยความอาลัย จากนั้นพระภิกษุ สามเณร แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา ศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชน ร่วมสวดเจริญมรณานุสติพร้อมกัน

จากนั้นเมื่อเวลา 19.00 น. นายเนาวรัตน์ พงศ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ อ่านบทกวี “กราบหลวงพ่อปัญญา” โดยมีการบรรเลงขลุ่ยโดยนายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติ พระปัญญานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ นำจุดประทีปประกาศสัจธรรม พุทธศาสนิกชนร่วมกันเจริญจิตภาวนาและสวดมนณานุสติคาถา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนแต่งกายด้วยชุดชุดดำและขาวไว้ทุกข์ทยอยเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก โดยต่างจับจองพื้นที่รอบบริเวณวัดเพื่อรอร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ และฟังแสดงพระธรรมเทศนา

สำหรับพระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทมหาเถระ) หรือหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เป็นพระมหาเถระที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย ด้านการเผยแผ่ศาสนาทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีนามเดิมว่า ปั่น เสน่ห์เจริญ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 พ.ค. 2454 ณ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่ออายุ 18 ปี บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดอุปนันทนาราม จ.ระนอง โดยมีพระระณังคมุนีเป็นพระอุปัชฌาย์ กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดนางลาด อ.เมือง จ.พัทลุง โดยมีพระจรูญกรณีย์เป็นอุปัชฌาย์ เมื่อ พ.ศ. 2474

ใน พ.ศ. 2477 หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุเดินทางไปจำพรรษากับพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ที่สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี และร่วมเป็นสหายธรรมในการเผยแพร่หลักธรรมตามหลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อมากรมชลประทานได้สร้างวัดใหม่ชื่อ “วัดชลประทานรังสฤษดิ์” ที่ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และได้อาราธนาพระปัญญานันทภิกขุเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ พ.ศ. 2503

กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2550 เวลา 09.00 น. หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุได้มรณภาพอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลศิริราช สิริอายุ 96 ปี 5 เดือน พรรษา 76

Cr. ข่าวสด