วันที่ 18 พ.ย. 61 เวลาประมาณ 07.00 น. จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำศูนย์วิทยุตำรวจภูธจังหวัดลำปาง รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้บ้านภายในชุมชนท่านางลอย ถ.ท่านางลอย ต.เวียงเหนือ อ.เมืองลำปาง จึงมีการประสาน ร.ต.อ.ธาณี ตันจันทร์กูล รอง สวป. สภ.เมืองลำปาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ สายตรวจ และรถดับเพลิงของเทศบาลนครลำปาง จำนวน 3 คัน ตรวจที่เกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่ สารวัตรทหาร จากมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมอำนวยความสะดวกในที่เกิดเหตุด้วย
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้สักวอดไปทั้งหลัง โดยบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สัก 2 ชั้น เลขที่ 44 ถ.ท่านางลอย เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดการลุกไหม้ เพราะเกรงจะไปติดบ้านไม้หลังอื่นที่อยู่ใกล้กัน โดยเพลิงลุกไหม้นานกว่า 30 นาที ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่บ้านก็ถูกเพลิงไหม้วอดไปทั้งหลัง
จากการสอบถาม นายมานพ สุพวรรณา อายุ 54 ปี ผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากเจ้าของบ้านเสียชีวิตไปแล้วเหลือเพียงบุตรชาย ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ตี๋น้อย อายุประมาณ 48 ปี ซึ่งมีอาการทางประสาท กลับมานอนที่บ้านบ้างเป็นครั้งคราว โดยก่อนเกิดเหตุตนได้เข้ามาดูความเรียบร้อยของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งก็พบว่าปกติดี จากนั้นตนก็กลับออกมา แต่ไม่นานเพียง 5 นาที ก็มีคนวิ่งมาบอกตนว่ามีไฟลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าว จึงรีบไปดูและโทรแจ้งรถดับเพลิง แต่ก็ไม่ทันแล้วเพลิงไหม้บ้านไม้สักทองวอดไปทั้งหลัง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่เร่งดับเพลิงที่ลุกไหม้ให้สงบ พร้อมกั้นรอบบริเวณเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใดเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุก่อนจะเร่งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
ล่าสุด เมื่อ 09.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ได้ตามตัว นายตี๋น้อย หรือผู้อาศัยที่บ้านรายนี้ ซึ่งมีอาการทางประสาท โดย นายตี๋น้อย ได้วิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไป และห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 800 เมตร บริเวณถนนท่ามะโอ หน้าวัดประตูต้นผึ้ง ต.เวียงเหนือ เมืองลำปาง โดยเจ้าหน้าที่พยายามเรียกตัว แต่ นายตี๋น้อย พยายามวิ่งหนี และต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ นายตี๋น้อย ก็ยังมีอาวุธ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบุกชาร์จตัวและทำการจับกุมตัว นายตี๋น้อย มาสอบปากคำ แต่ นายตี๋น้อย พูดจาวกวนไปมาคล้ายกับคนมีอาการทางประสาท เนื่องจากช่วงเกิดเหตุมีชาวบ้านบอกว่า เห็น นายตี๋น้อย เอะอะโวยวายอยู่ภายในบ้าน และในช่วงก่อนที่มีไฟลุกไหม้บ้าน นายตี๋น้อย ก็ได้หลบหายไป
จากการสอบปากคำ นายตี่น้อย ยังคงให้การวกวน รับสารภาพว่าบ้านที่เกิดเหตุอาศัยอยู่เพียงลำพัง เนื่องจากทุกคนในครอบครัวได้ย้ายหนีไปอยู่ที่อื่น พร้อมทั้งบ่นน้อยใจว่าพ่อแม่ที่ไม่รักจึงตัดสินใจจุดไฟเผากลางบ้านและหลบหนีออกมาดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง เพื่อทำการสอบปากคำ และดำเนินการส่งตัว นายตี๋น้อย ไปรักษาอาการป่วยทางประสาทที่โรงพยาบาลลำปางต่อไป
