อุทยานฯ มั่นใจหลักฐานแน่น ทนายเปรมชัยหาทางสู้
“เจ้าสัวไม่อยู่ในที่เกิดเหตุล่าเสือดำ”
วันที่ 4 ของการนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ในคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เจ้าหน้าที่รัฐ มีการตั้งข้อสังเกตว่าทีมทนายฝ่ายจำเลย อาจจะต่อสู้ว่า
นายเปรมชัย ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่กรมอุทยานฯมั่นใจในพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริง
ความคืบหน้าอัยการจังหวัดทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด พร้อมพวกอีก 3 คน ต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ จำเลยคดีล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี เป็นวันที่ 4
เมื่อวานนี้เป็นการสืบพยานโจทก์ปาก นายปิยะพงษ์ สืบเสน ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก
และ นายญาณ อ้วนสิงห์ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ขณะที่ทีมทนายจำเลยเดินทางมาพร้อม กับนายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2
นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4
ส่วนนายเปรมชัย จำเลยที่ 1 ไม่ได้เดินทางมาด้วย เนื่องจากศาลจังหวัดทองผาภูมิ อนุญาตให้มีการพิจารณาคดีลับหลัง เนื่องจาก
นายเปรมชัย อ้างว่ามีความจำเป็นต้องไปบริหารงานของบริษัท รวมทั้งสุขภาพไม่ดี แต่ต้องเดินทางมาสืบพยานจำเลยระหว่างวันที่
19 -21 ธ.ค.นี้ และวันที่ 25-27 ธ.ค.นี้
โดยทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย ยังไม่มีใครตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว พยานฝ่ายโจทก์ มีเพียงนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขต
รักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก เท่านั้นที่ไม่ได้มาร่วมรับฟัง
ขณะที่สำหรับการสืบพยานฝ่ายโจทก์ วันนี้มีเพียง 2 ปาก คือ นายประกาศศิต มณี และนายบัญชา ไกรศรีบารมี เจ้าหน้าที่
ชุดจับกุม การสืบใช้เวลาทั้งวัน ก่อนที่จะสิ้นสุดในเวลา 16.30 น. โดยศาลได้นัดสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 6 ธ.ค.นี้
ส่วนกรณีที่ทีมทนายของนายเปรมชัย พยายามต่อสู้คดี ด้วยการพยายามนำสืบว่า ขณะเจ้าหน้าที่จับกุม นายเปรมชัยไม่ได้อยู่
ในที่เกิดเหตุ ที่พบการล่าเสือดำด้วยนั้น นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์
ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ในการต่อสู้ทางคดี เจ้าหน้าที่ไม่ได้รู้สึกหวั่นวิตก เนื่องจากการต่อสู้คดี ในชั้นศาลยึดตามพยาน
หลักฐาน และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ คงไม่สามารถบิดเบือนข้อเท็จจริงได้