เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ร.ต.อ.ศักดา บุญก้อน รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกชิงทรัพย์ ตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน และตำรวจเขตงานบ้านเลื่อม ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยกพื้นสูง มีรั้วขอบชิด พบ น.ส.ศิริพร ศรีดามาต อายุ 38 ปี เจ้าของบ้าน อยู่ในอาการตกใจ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจุดที่คนร้ายงัดหน้าต่างห้องนอนลูกชาย โดยถอดลูกกรงเหล็กดัดออก เป็นช่องทางเข้าในบ้านได้ แล้วมาแอบอยู่ข้างตู้เย็น ขณะที่ น.ส.ศิริพร กำลังเอาจานข้าวไปล้างที่ห้องครัวหลังบ้าน
น.ส.ศิริพร ให้การว่า หลังเดินเข้ามาในบ้าน คนร้ายเข้าล็อคตนไว้แล้วใช้มีดพร้า ที่วางอยู่ริมรั้วข้างบ้านเป็นอาวุธจี้คอ บังคับให้นำเงินสดที่มีอยู่เอามาให้ แต่ตนบอกว่าไม่มี จึงถอดสร้อยคอทองน้ำหนัก 1 สลึงที่คอให้ไป แล้วคนร้ายให้ตนถอดแหวนทองน้ำหนัก 1 สลึงที่นิ้วมือไปให้ด้วย ตนต้องขอร้องว่าเป็นแหวนแต่งงาน คนร้ายจึงยอมให้ จากนั้นคนร้ายลากตนไปที่ห้องนอน เพื่อหาทรัพย์สินต่อ พบเงิน 260 บาท คนร้ายยอมเอาไปเพียง 60 บาท ที่เหลือ 200 บาทยอมให้ตนไว้ให้ลูก 2 คนไว้ไปโรงเรียน แล้วคนร้ายก็เอาสายไฟฟ้าปลั๊กไฟ มามัดตนไพล่หลังไว้ที่ห้องครัว ก่อนหลบหนีไป ตนจึงโทรหาพี่สาว ให้มาช่วยเหลือแกะสายไฟฟ้าที่โดนมัดออก แล้วแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
น.ส.ศิริพร ให้การต่อว่า ตนมีอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าขายทางออนไลน์ จะทำงานอยู่ที่บ้าน มีสามีใหม่เป็นชาวอเมริกา และ 4-5 เดือนจึงจะมาเยี่ยม และพึ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ได้ประมาณ 5 เดือน หลังสร้างเสร็จ เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา โดยอยู่บ้านกับลูกชาย 2 คน เมื่อเช้าหลังจากตนไปส่งลูกชายสองที่โรงเรียน แล้วกลับมาบ้าน ได้ยินเสียงเหมือนเหล็กล้มลง ในตอนแรกคิดว่าเป็นเพื่อนข้างบ้าน ทำการซ่อมอะไรอยู่ แต่เห็นผิดสังเกตผ้าม่านหน้าต่างปิดสนิท ที่ห้องครัวปกติจะเปิดโล่งเอาไว้ มารู้ตัวก็ถูกคนร้ายเข้ามาล็อคคอใช้มีดจี้คอแล้ว สำหรับรูปพรรณคนร้าย ผอมสูงดำ สวมเสื้อยืดสีเทา นุ่งกางเกงยีน ใส่รองเท้าพลาสติก สีน้ำเงิน ในตอนที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุนั้น คนร้ายเอาเสื้อของลูกชาย มาคลุมใบหน้า เพื่อไม่ให้ตนจำใบหน้าได้อย่างชัดเจน ส่วนผู้ต้องสงสัยนั้น คาดว่าจะเป็นกลุ่มคนแปลกหน้า ที่มาดื่มเหล้ากันที่บริเวณปากทางเข้ามาบ้านพักของตน
ร.ต.อ.ศักดา เปิดเผยว่า ดูจากพฤติกรรมของคนร้าย แล้วอาจจะซุ่มดูเจ้าของบ้าน ก่อนหน้านี้ แล้วรู้ว่าผู้เสียหาย อยู่บ้านคนเดียว ในช่วงเวลาไหน จึงเข้ามาลงมือก่อเหตุ โดยจะให้ตำรวจชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกนี้และสอบถาม ชาวบ้านแถวนี้ว่า ถึงคนแปลกหน้าเข้ามาในช่วงเกิดเหตุ ตลอดจนการใช้ยานพาหนะ เพื่อเป็นเบาะแส ในการติดตามคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Cr. ข่าวสด